เยี่ยมชม Pantheon Rome

สิ่งปลูกสร้างของชาวโรมัน ทั้งวิหารแพนธีออน หรือโคลอสเซียม ตั้งตระหง่านอย่างสง่างามมานานนับ 2,000 ปี นับเป็นตัวเลขน่ามหัศจรรย์ชวนให้เกิดคำถามว่า สิ่งปลูกสร้างหรือสถาปัตยกรรมโรมัน คงอยู่ได้อย่างไรตลอดมานี้โดยแทบจะไม่มีร่องรอยผุพังเอาเสียเลย
.
ความลับของชาวโรมันคือ “คอนกรีต” ชนิดหนึ่ง ที่มีอายุการใช้งานยาวนานกว่าคอนกรีตในยุคปัจจุบันที่เสื่อมสภาพไปในระยะเวลาไม่กี่สิบปี ซึ่งเราจะเรียกมันง่าย ๆ ว่า “คอนกรีตโรมัน”
.
ล่าสุด ทีมนักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบ “ส่วนผสมลึกลับ” ที่ทำให้ชาวโรมันสามารถสร้างวัสดุก่อสร้างที่ทนทานนี้ขึ้นมาได้ และอาจนำไปสู่การปฏิวัติทางสถาปัตยกรรมครั้งใหม่ของมนุษยชาติ!
ตึกแพนธีอัน (ละติน: Pantheon[nb 1] แพนธีอัน มาจาก กรีก: Πάνθεον ที่แปลว่า พระเจ้าทั้งหมด เป็นสิ่งก่อสร้างที่ตั้งอยู่ในกรุงโรม เดิมสร้างโดยมาร์คัส วิพซานิอัส อกริพพา (Marcus Vipsanius Agrippa) สำหรับเป็นเทวสถาน (Roman temple) สำหรับเทพต่างๆ ของโรมันโบราณ โรมันโบราณ ต่อมาก็ได้รับการสร้างใหม่ในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 2

ตัวสิ่งก่อสร้างจะอุทิศให้แก่เทพเท่าใดนั้นก็ยังคงเป็นเรื่องที่โต้แย้งกันอยู่ คำว่า แพนธีอัน” โดยทั่วไปในปัจจุบันหมายถึงอนุสาวรีย์ที่เป็นที่เก็บศพของคนสำคัญ แพนธีอันเป็นสิ่งก่อสร้างจากสมัยโรมันที่ยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดสิ่งหนึ่ง และได้รับการใช้สอยตลอดมาในประวัติศาสตร์ ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 7 ก็ใช้เป็นคริสต์ศาสนสถานของโรมันคาทอลิก ที่อุทิศให้ พระแม่มารีและผู้พลีชีพเพื่อศาสนา” ตัวตึกเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีโดมขนาดใหญ่ที่เก่าที่สุดในกรุงโรม ความสูงของช่องตา (oculus) บนเพดานและเส้นผ่าศูนย์กลางของช่องวัดจากด้านในเท่ากับ 43.3 เมตรเท่ากัน (ขอบคุณที่มาจาก http://th.wikipedia.org/wiki)

เดินมาจากซอกตึก มาโผล่ตรงลานกว้างด้านหน้าของ ตึกแพนธีอัน ซึ่งบริเวณด้านหน้ารอบๆเต็มไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ มากมาก
ตึกแพนธีอัน 


มหาวิหารแพนธีออน ที่มาอายุกว่า 2,000 ปี (แข็งแรงมาก) แสดงให้เห็นถึงอัจฉริยะแห่งการสร้างสรรค์ของสถาปนิกสมัยโบราณกับเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร คือ เป็นวิหารทรงกระบอก กว้าง 142 ฟุต และสูง 142 ฟุตเท่ากัน ไม่มีเสาค้ำกลางคอยรับน้ำหนักทั้งที่มีขนาดใหญ่โต ทางเข้าด้านหน้าทำเป็นมุขที่มีหลังคาสามเหลี่ยมหน้าจั่วและมีเสาตั้งเรียงกันอยู่เหมือนวิหารกรีก และมีหลังเป็นคาโดมโค้งมนมีช่องวงกลมขนาดใหญ่ตรงกลางให้แสงผ่านเข้ามา เรียกช่องนี้ว่า โอคูลุส” (Oculus)
  
เข้ามาชมด้านใน

โอคูลุส แปลว่า ตา ซึ่งหมายถึงสัญลักษณ์ของตาจากสวรรค์ ช่องแสงขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 30 ฟุตนี้มีความเชื่อกันว่าเป็นทางเชื่อมระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า  และได้มีนักประวัติศาสตร์เสนอคำอธิบายที่น่าสนใจเกี่ยวกับรูรับแสงนี้ว่ามันถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นนาฬิกาแดดและช่วยส่องแสงสว่างให้กษัตริย์ในอดีตในขณะที่เสด็จมาประกอบพิธีสำคัญๆ ภายในวิหาร โดยร่างของกษัตริย์จะถูกอาบด้วยลำแสงของดวงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมาผ่านช่องแสงนี้  


 มองออกไปด้านนอก
 ภาพด้านหลังมหาวิหารแพนธีออน


..... :-P .....


แล้วก็เดินต่อมาจากมหาวิหารแพนธีออน ชื่นชมความเก่าแกาของสถาปัตยกรรมโรม
เดินมาถึงโบสถ์เล็กๆอีกโบสถ์








  











..... 😜😚 .....

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น