This is default featured slide 1 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 2 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 3 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 4 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 5 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

เยี่ยมชม Castel Sant' Angelo (Rome)

Castel Sant' Angelo ปราสาททรงกลมสูงริมแม่น้ำไทเบอร์ แม้จะไม่ได้อยู่ในเขตกำแพงวาติกัน แต่ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของนครรัฐวาติกันตามสนธิสัญญาของมุสโสลินี สร้างขึ้นโดยกษัตริย์เฮเดรียน เพื่อใช้เป็นที่เก็บพระศพของพระองค์และสมาชิกในครอบครัว ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นที่ตั้งของกองทหาร และใช้เป็นที่คุมขังนักโทษ จนถึงสมัยของสมเด็จพระสันตปาปานิโคลัสที่ ได้สร้างทางเชื่อมระหว่างปราสาทแห่งนี้ กับวิหารเซนต์ปีเตอร์ เพื่อใช้เป็นทางหนีหากเกิดเหตุร้ายขึ้นกับพระสันตปาปา ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ (Museo Nazionale di Castel Sant' Angelo)(ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.cigna.co.th)
เดินตรงออกมาจากถนนเส้นนี้ด้านหน้า  St.Peter Square
มองเห็นไกลๆ


มาถึงแระ Castel St Angelo 

เทพบนสะพาน Castel Sant'Angelo... เป็นของเลียนแบบประติมากรรมเดิมที่สร้างโดย Bernini... แต่ละร่างถือเครื่องมือแห่งความรักของพระคริสต์





 ถัดจาก Ponte Vittorio Emanuele II ขึ้นมา ก็เป็นสะพาน Ponte Sant’Angelo

Ponte Sant'Angelo  .เดิมชื่อสะพาน Aelian หรือ PonsAelius ...หมายถึงสะพานเฮเดรียน ...เป็นสะพานโรมันในโรม ... สร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 134 ...โดยจักรพรรดิโรมันเฮเดรียน.. ข้ามแม่น้ำไทเบอร์เชื่อมใจกลางกรุงโรมไปยังสุสานที่สร้างขึ้นใหม่ของพระองค์


  แล้วก็เดินออกมาทางด้านซ้ายของสะพาน ไม่ได้เข้าชมด้านใน เนื่องจากเวลาไม่พอ  :-(
..... 👱👳 .....

เยี่ยมชม Vatican Museum

นครรัฐวาติกัน (อังกฤษ: State of the Vatican City; อิตาลี: Stato della Città del Vaticano) เป็นนครรัฐที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลซึ่งน้อยที่สุดในโลกทั้งในแง่พื้นที่และประชากร ตั้งอยู่ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี เป็นที่ประทับของพระสันตะปาปา ซึ่งเป็นประมุขสูงสุดแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก ศูนย์กลางคือมหาวิหารนักบุญเปโตร ซึ่งออกแบบโดยมีเกลันเจโล (ขอบคุณข้อมูลจาก https://th.wikipedia.org/wiki)

(อ้างอิงข้อมูลจาก Trachoo.com และ http://www.oknation.net/blog) โดยอธิบายไว้ว่า  หลายร้อยปีก่อน ในดินแดนของประเทศ อิตาลี ในปัจจุบัน  มีรัฐๆนึงชื่อ Papal หรือ Papal States ซึ่งเป็นรัฐที่อยู่กลางประเทศอิตาลี  ปกครองโดย โป๊ป หรือประมุขแห่งศาสนาคริสต์ นิกายโรมัน แคทอลิคส์  มืองนี้เป็นที่ตั้งของโบสถ์ St. Peter Basilica โบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

นอกจากนี้แล้วโป๊ปก็ยังสร้างกำแพงที่ใหญ่มากที่ตีนภูเขาที่ St Peter Basilica ตั้งอยู่ แล้วเรียกพื้นที่ที่กำแพงนั้นล้อมรอบว่า  Vatican City ในระหว่างปี คศ.754-1870 ด้วยความที่รัฐนี้อยู่เกะกะประเทศอิตาลียังไงชอบกล Kingdom of Piedmont-Sardinia กษัตริย์แห่งอิตาลีเห็นแล้วก็ให้รำคาญก็เลยสั่งลุย ยึด Papal States เป็นของอิตาลี   โป๊ปด้วยความตกใจ ก็เลยหนีไปซ่อนอยู่หลังกำแพงเมือง Vatican ที่ตนสร้างขึ้น
แล้วก็โวยวายไปทั่ว ไม่ยอมรับการมีราชอาณาจักรอิตาลี ในขณะเดียวกันก็โวยวายอีกว่าโดนจับขังคุกโดยกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรอิตาลี ที่ตัวเองบอกว่า ไม่มีตัวตน  กษัตริย์อิตาลี ก็ทรงพระใจเย็นเหลือเกิน ไม่ส่งทหารเข้าไปจับแต่จะนั่งคอยข้างนอกกำแพงนี่แหละ แต่กาลเวลาก็ไม่คอยใคร โป๊ปเปลี่ยนไปอีก 5 องค์ ก็ไม่ยอมออกมาให้อิตาลีจับเสียทีจนกระทั่ง60 ปีผ่านไป (1870-1929) มันก็เลยล่วงมาถึง นายกอิตาลีที่ชื่อ มุสโสลินี Benito Amilcare Andrea Mussolini  นายมุสโสลินี ได้เสนอไปยังโป๊ปด้วยขอเสนอ 3 ข้อคือ
1. รัฐบาลอิตาลียอมยกดินแดนให้เป็นประเทศ Vatican และให้เงินไปสร้างประเทศ
2. ประมุขแห่ง Vatican ต้องเป็นกลางทางการเมืองและสงคราม
3. ต้องยอมรับการมีประเทศอิตาลี

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Vatican จึงกลายเป็นประเทศที่สมบูรณ์แบบ มีเมืองหลวง  คือ กรุงวาติกัน  มีรัฐบาล มีกฎหมาย มีตำรวจ มีคุก มีธนาคาร  มีทะเบียนรถมีแม้้กระทั่ง URL ของตัวเองเช่น WWW.Vatican.Va

ประเทศ Vatican เป็นประเทศที่ปกครองโดยโป๊ป ที่ได้รับการเลือกตั้งและโป๊ป เป็นกษัตริย์ของประเทศนี้มีอำนาจสิทธิ์ขาดเหนือทุกอย่างทืี่เรียกกันว่า Absolute Monarchy หรือ สมบูรณาญาสิทธิราช นี่เอง(บรูไน โอมาน การ์ตา ซาอุดิอาระเบีย และ สวาซิแลนด์ ที่ยังคงปกครองด้วยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชนี้อยู่)  ประเทศนี้ ประชากรเพียง 826 คน ประเมิณเมื่อ พ.ศ.2552 (อ้างอิงข้อมูลจาก https://th.wikipedia.org/wiki)
การเป็นประชากรประเทศนี้ได้ต้องเป็นผู้  ที่ทำงานให้โป๊ปเท่านั้น และ ไม่มีผู้หญิง(ขอบคุณข้อมูลจาก Trachoo.com)
หน้าตาตั๋วเข้าชมสวยทีเดียว
ก่อนที่จะเดิน  ต้องกางแผนที่แต่ละห้องว่า มีอะไรบ้าง เยอะมาก คงดูไม่หมด เนื่องจากเวลาจำกัด
เดินจากการสแกน ตรงประตูทางเข้า แล้วก็ทะลุออกมา ณ ลานกว้างแห่งนี้
ด้านข้างมีห้องแสดงศิลปะภาพวาด เข้าไปดูกัน 
ส่วนประตูนี้เป็นร้านขายของที่ระลึก ที่เกี่ยวกับศาสนาคริสต์ ภาพวาด ประวัติของพระสันตะปาปา 




 ก่อนเข้าไปในส่วนของพิพิธภัณฑ์อันกว้างใหญ่อีกด้านก็เดินมาถึงลานกว้างเป็นสนามหญ้า มีลูกโลกทองคำหมุนได้อยู่ตรงกลางสนาม ชื่อว่า Sphere within Sphere ของ Pomodoro






หันหลังมองกลับไปเป็น Cortle della Pigna


แล้วเดินเข้ามาในพิพิธภัณฑ์อีกด้าน
มีสถาปัตยกรรมปูนปั้น งานหินอ่อนแกะสลักเต็มไปหมด
มองเห็นเสาสูงใหญ่เป็นประตูทางเข้าอีกฝั่ง 



บริเวณนี้ล้วนเป็นรูปปั้นสัตว์แปลกๆ ตั้งแต่ด้านหน้า จนถึงด้านในเต็มไปทั้งห้อง


เดินมาเรื่อยๆ 



















เป้าหมายต่อไปเดินตรงไปยัง Cappella Sistina เข้าไปด้านในจะมีเจ้าหน้าที่คุมเข้ม ห้ามส่งเสียงดัง ห้ามถ่ายภาพเด็ดขาด
ใครจะไปต้องเผื่อเวลาให้ดี เพราะ แถวยาวมาก เดินเข้าไม่น้อยกว่า 45 นาที
ระหว่างสองข้างทางเดินผนังด้านซ้ายจะประดับด้วยผ้าทอลายศิลป์แบบต่างๆมากมาย มีมือการปักทอละเอียดสวยงามมาก




ภาพวาด และแกะสลัก อันสวยงาม ละเอียด ปราณีตของเพดาน
ภาพผ้าทอบนฝาผนัง


บริเวณห้องด้านข้างระหว่างทยอยเดินไปยัง Cappella Sistina




จบจากห้อง Cappella Sistina ก็เดินตรงออกมา ผ่านแต่ละห้องก็เต็มไปด้วยสิ่งแปลกๆในพิพิธภัณฑ์
มีมากมายให้ชื่นชม






ใกล้บริเวณทางออกมีร้านจำหน่ายของที่ระลึก อยู่ด้านในอาคารเช่นกัน

จากนั้นก็ลงบันไดวนอันสวยงาม เพื่อออกจากพิพิธภัณฑ์ เป็นอันว่าเสร็จภารกิจเยี่ยมชม Vatican Museum

... 😊 Bye  Bye 😜...